2024-06-10 11:37:20
ในยุคที่เทคโนโลยี AI (ปัญญาประดิษฐ์) ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว เราคงเคยได้ยินคำว่า "AI" บ่อยครั้ง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า AI มีหลายประเภทที่ทำงานแตกต่างกันออกไป?
วันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึก AI 6 ประเภทที่น่าสนใจและอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน ได้แก่ Artificial Neural Network (ANN), Convolutional Neural Network (CNN), Recurrent Neural Network (RNN), Generative Adversarial Network (GAN), Transformer และ Large Language Model (LLM) พร้อมตัวอย่างการใช้งานที่เข้าใจง่าย
1. Artificial Neural Network (ANN)
Artificial Neural Network (ANN) หรือเครือข่ายประสาทเทียม คือรูปแบบของ AI ที่ออกแบบมาให้เลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ มีการเชื่อมโยงกันของ "นิวรอน" ที่จำลองขึ้นมา เพื่อทำการเรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมาก
ตัวอย่าง ANN ถูกนำมาใช้ในการรู้จำลายมือ (Handwriting Recognition) เช่น การแปลงลายมือเป็นข้อความดิจิทัลในแอปพลิเคชันจดบันทึก
2. Convolutional Neural Network (CNN)
Convolutional Neural Network (CNN) เป็นประเภทของ ANN ที่ออกแบบมาเพื่อประมวลผลข้อมูลภาพโดยเฉพาะ โดยมีการใช้ฟิลเตอร์เพื่อจับลักษณะเฉพาะของภาพ เช่น ขอบ สี และรูปร่าง
ตัวอย่าง CNN ใช้ในระบบรู้จำภาพ (Image Recognition) เช่น การตรวจจับใบหน้าบุคคลในภาพถ่ายหรือกล้องวงจรปิด
3. Recurrent Neural Network (RNN)
Recurrent Neural Network (RNN) เป็น ANN ที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลจากขั้นตอนก่อนหน้าเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป ทำให้สามารถจดจำลำดับเวลาและบริบทของข้อมูลได้ดี
ตัวอย่าง RNN ใช้ในการพยากรณ์ข้อมูลเชิงเวลา (Time Series Prediction) เช่น การพยากรณ์ราคาหุ้นหรือการคาดการณ์สภาพอากาศ
4. Generative Adversarial Network (GAN)
Generative Adversarial Network (GAN) เป็นการรวมสองโมเดลเข้าด้วยกัน คือ Generator ที่สร้างข้อมูลใหม่ขึ้นมา และ Discriminator ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบว่าข้อมูลที่สร้างขึ้นนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม โดยทั้งสองโมเดลจะแข่งขันกันเพื่อปรับปรุงการสร้างข้อมูล
ตัวอย่าง GAN ใช้ในการสร้างภาพปลอมที่เหมือนจริง (Deepfake) เช่น การสร้างภาพใบหน้าที่ไม่เคยมีอยู่จริง
5. Transformer
Transformer เป็นโครงสร้างที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลที่มีลำดับ (Sequential Data) โดยสามารถรับรู้และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคำหรือส่วนต่างๆ ของข้อมูลได้ดี
ตัวอย่าง Transformer ใช้ในระบบแปลภาษาอัตโนมัติ (Machine Translation) เช่น Google Translate ที่สามารถแปลข้อความจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่งได้อย่างแม่นยำ
6. Large Language Model (LLM)
Large Language Model (LLM) เป็นโมเดลที่มีขนาดใหญ่และถูกฝึกด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล ทำให้มีความสามารถในการเข้าใจและสร้างภาษาธรรมชาติได้ใกล้เคียงกับมนุษย์
ตัวอย่าง LLM ใช้ในระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ (Intelligent Assistant) เช่น ChatGPT ที่สามารถตอบคำถามและสนทนากับผู้ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว
AI แต่ละประเภทมีความสามารถและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดย ANN, CNN, RNN, GAN, Transformer และ LLM ต่างก็มีจุดเด่นและการประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ของชีวิตประจำวัน การเข้าใจและรู้จัก AI ประเภทต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้เรามีความเข้าใจในเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเรา และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานหรือชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณสนใจและต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AI อย่าลืมติดตามบทความและข่าวสารจากเรา เพื่อที่จะได้อัพเดทความรู้และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่มีเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของเรามากขึ้น
2024-06-10 03:19:31
2024-05-31 03:06:49
2024-05-28 03:09:25
2024-05-24 11:26:00
บทความที่น่าสนใจอื่นๆยังมีอีกมากลองเลืือกดูจากด้านล่างนี้ได้นะครับ
2024-09-27 09:15:29
2024-06-06 02:05:04
2023-11-01 02:54:29
2024-08-19 10:49:29
2024-09-23 02:32:32
2024-02-29 02:55:52
2023-12-28 02:37:23
2023-09-05 12:03:50
2023-10-31 03:54:19