Technology

5 แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024

2024-09-23 02:32:32


ในปี 2024 นี้การสร้างร้านค้าออนไลน์ได้กลายมาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจโดยไม่อยากเปิดหน้าร้านหรือผู้ที่ต้องการขยายการขายไปยังตลาดดิจิทัล ด้วยแพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ฟรีที่สามารถใช้งานได้ง่ายและมีฟีเจอร์ครบครัน ธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้เริ่มต้นสามารถเริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์ได้ทันที นี่คือบทความที่จะพาคุณไปรู้จักกับ 5 แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024




Wix

Wix เป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์และร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น ด้วยความที่สามารถใช้งานได้ง่ายจากเครื่องมือ Drag-and-Drop และมีฟีเจอร์สำคัญสำหรับร้านค้าออนไลน์

ข้อดี

  • สร้างและปรับแต่งร้านค้าได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด
  • รองรับการขายสินค้าหลายประเภท รวมถึงสินค้าออนไลน์และสินค้าจริง
  • มีเทมเพลตที่สวยงามสำหรับร้านค้าออนไลน์ให้เลือกมากมาย
  • รองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต และ PayPal

ข้อเสีย

  • ร้านค้าออนไลน์บนเวอร์ชันฟรีจะมีโฆษณาของ Wix แสดงอยู่บนเว็บไซต์
  • การจะใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงต้องอัปเกรดแพ็กเกจซึ่งมีค่าใช้จ่าย

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเปิดร้านค้าออนไลน์ที่ง่ายและมีการตั้งค่าที่ไม่ซับซ้อน



Weebly

Weebly เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ที่รองรับฟีเจอร์ E-commerce แบบครบวงจร มีเครื่องมือการสร้างเว็บไซต์แบบ Drag-and-Drop และฟีเจอร์ต่างๆที่เหมาะกับการขายสินค้าออนไลน์

ข้อดี

  • มีระบบการจัดการสินค้าคงคลังและการสั่งซื้อที่ง่ายต่อการใช้งาน
  • รองรับการชำระเงินผ่าน PayPal, Stripe และ Square
  • มีเครื่องมือ SEO และฟีเจอร์บล็อกเพื่อเพิ่มการมองเห็นในเครื่องมือค้นหา

ข้อเสีย

  • ในเวอร์ชันฟรีจะมีโฆษณาของ Weebly แสดงอยู่บนเว็บไซต์
  • ฟีเจอร์การปรับแต่งและการเชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่นๆอาจมีข้อจำกัดในเวอร์ชันฟรี

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการสร้างร้านค้าออนไลน์พร้อมฟีเจอร์พื้นฐานในการขายสินค้าออนไลน์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก



Big Cartel

Big Cartel เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าจำนวนน้อยหรือศิลปินที่ต้องการขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม มีแผนบริการฟรีที่รองรับการขายสินค้าได้สูงสุด 5 ชิ้น

ข้อดี

  • ง่ายต่อการใช้งาน โดยไม่ต้องมีทักษะทางด้านเทคนิค
  • รองรับการชำระเงินผ่าน PayPal และ Stripe
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการขายเพิ่มเติม นอกจากค่าธรรมเนีบมการชำระเงินของ PayPal หรือ Stripe

ข้อเสีย

  • แผนฟรีรองรับสินค้าจำนวนจำกัดเพียง 5 ชิ้น
  • ฟีเจอร์การปรับแต่งและเครื่องมือสำหรับการตลาดมีข้อจำกัดในแผนฟรี

เหมาะสำหรับ: ศิลปิน นักออกแบบ หรือผู้ที่ต้องการขายสินค้าจำนวนน้อยชิ้นและต้องการแพลตฟอร์มที่เรียบง่าย



Ecwid

Ecwid เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการขายสินค้าออนไลน์ทั้งบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ด้วยแผนบริการฟรีที่สามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

ข้อดี

  • แผนบริการฟรีรองรับสินค้าจำนวนสูงสุด 10 ชิ้น
  • เชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์กับโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram ได้ง่าย
  • มีปลั๊กอินที่สามารถติดตั้งบนเว็บไซต์ที่มีอยู่แล้วเช่น WordPress หรือ Wix

ข้อเสีย

  • ฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างเช่น การตลาดผ่านอีเมล หรือการวิเคราะห์ขั้นสูง ต้องใช้แผนที่มีค่าใช้จ่าย
  • แผนฟรีมีข้อจำกัดในการปรับแต่งฟีเจอร์

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการขายสินค้าจำนวนน้อยและเชื่อมโยงร้านค้าออนไลน์กับโซเชียลมีเดีย



Shopify (ฟรีช่วงทดลอง)

Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับร้านค้าออนไลน์ แม้จะไม่ใช้แพลตฟอร์มฟรีเต็มตัว แต่ Shopify มีช่วงทดลองการใช้งานฟรี ซึ่งคุณสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์และทดลองขายสินค้าได้

ข้อดี

  • ระบบการจัดการร้านค้าที่ครอบคลุมทุกด้าน เช่น การจัดการสินค้าคงคลัง ระบบชำระเงิน และระบบขนส่ง
  • รองรับการขายผ่านหลายช่องทาง เช่น Instagram, Facebook และ TikTok
  • มีแอปเสริมมากมายที่เพิ่มความสามารถของร้านค้า

ข้อเสีย

  • หลังจากหมดช่วงทดลอง ต้องเสียค่าบริการรายเดือน 
  • ฟีเจอร์บางอย่างเช่น การวิเคราะห์ขั้นสูง ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการทดลองใช้แพลตฟอร์มร้านค้าที่มีฟีเจอร์ครบครันและพร้อมขยายในอนาคต



การเลือกแพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ฟรีขึ้นอยู่กับความต้องการและขนาดของธุรกิจ หากคุณเป็นผู้เริ่มต้นและต้องการความง่ายในการตั้งค่า Wix หรือ Weebly อาจเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการขยายการขายผ่านหลายช่องทาง Shopify และ Ecwid ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

ร่วมเเสดงความคิดเห็น :

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

บทความที่น่าสนใจอื่นๆยังมีอีกมากลองเลืือกดูจากด้านล่างนี้ได้นะครับ