แอปพลิเคชันคืออะไร

แอปพลิเคชันคืออะไร 

ในยุคปัจจุบันที่สมาร์ตโฟนเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันจนเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันนับตั้งแต่การเปิดตัวของ Psion Organiser คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเครื่องแรกของโลกในปี 1984 ที่สามารถใช้เครื่องคิดเลขและนาฬิกาได้ ต่อมาในปี 1994 IBM ได้เปิดตัว Simon ที่สามารถรับส่งแฟกซ์และอีเมลได้ นอกจากนี้แล้วยังมีสมุดที่อยู่ ปฏิทิน และกำหนดการประชุม จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องแรกของโลก ต่อมาในปี 2005 บริษัท Blackberry ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนและได้สร้างมาตรฐานใหม่ที่สมาร์ตโฟนทุกเครื่องต้องมี คือการรับและส่งอีเมลนั้นเอง และการมาถึงของ Iphone จาก Apple ในปี 2007 ที่สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันซึ่งสามารถติดตั้งได้ผ่าน app store มากกว่า 500 แอป ในปีเดียวกัน Google Play Store ก็ได้เปิดตัวในลำดับต่อมา ทำให้เกิดการแข่งขันของตลาดแอปพลิเคชันอย่างเข้มข้น

โดยในปี 2020 ก็ได้มีแอปพลิเคชันมากว่าเก้าล้านแอปที่ให้บริการอยู่ มียอดการดาวน์โหลดแอปมากกว่า 218 ล้านครั้ง แอปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือแอป แชท 90.7% และแอปโซเซียลมีเดียอีก 88.4% แอปมือถือยอดนิยมประเภทอื่นๆ ได้แก่ แอปสำหรับการค้าบนมือถือ 69.4% ความบันเทิงและวิดีโอ 67.2% และแผนที่ 61.8% เพลง 52.9% และเกม 50% ซึ่งแอปเหล่านี้เข้ามามีบทบาทที่ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก แล้วถ้าอยากพัฒนาแอปพลิเคชันของตัวเองต้องรู้อะไรบ้างละ

ประเภทของแอปพลิเคชัน

ก่อนที่จะพัฒนาแอปพลิเคชัน ควรทราบเกี่ยวกับประเภทของแอปพลิเคชัน โดยมีสามประเภทดังนี้

1.Native apps คือแอปที่ถูกพัฒนาด้วย Library หรือ SDK โดยใช้ตามแพลตฟอร์มที่กำหนด (iOS ของApple และ Android ของGoogle) ตามปกติแอปพวกนี้จะสามารถใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์นั้น ๆ ได้เช่น กล้อง หรือไมโครโฟน เป็นต้น แต่ผู้ใช้จะต้องทำการดาวน์โหลดเองผ่านหน้า Store ของแต่ละแพลตฟอร์มนั้น ๆ ไม่สามารถข้ามแพลตฟอร์มได้ เพราะแอป iOS เขียนด้วย Objective-C หรือ Swift ในขณะที่แอป Android ใช้ Java

2.Progressive web apps คือแอปพลิเคชันที่ต้องการเพียงเว็บเบราว์เซอร์ก็สามารถทำงานได้ทุกแพลตฟอร์มสามารถทำงานออฟไลน์ ส่งการแจ้งเตือนแบบเอาต์พุตและเข้าถึงฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์ เช่น กล้องหรือ GPS อีกทั้งไม่ต้องดาวน์โหลดแอปลงบนเครื่อง

3.Hybrid apps คือ จะเป็นแอปที่รวม Native apps และ Progressive web apps สามารถทำงานได้ทุกแพลตฟอร์ม สามารถดาวน์โหลดและใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้

การวางขายแอปพลิเคชันที่หน้า Store

เมื่อคุณพัฒนาแอปพลิเคชันของคุณเรียบร้อยแล้ว ในกรณีถ้าแอปของคุณเป็นแบบ Native apps และ Hybrid apps จะต้องมีการลงทะเบียนเพื่อขอการอนุมัติจากหน้า Store ของแต่ละแพลตฟอร์ม อาทิ App Store จาก apple , Play Store ของ Google นอกจากนี้ยังมีของ Amazon (สำหรับอุปกรณ์ Kindle) และ Samsung ก็มี App Store เช่นกัน