10 แพลตฟอร์มสร้างโมเดล 3D ที่มี AI

เครื่องมือ AI ถูกนำมาใช้ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างแพร่หลายรวมถึงแพลตฟอร์มในการสร้างโมเดลแบบ 3D ที่เข้ามาช่วยในการจำลองด้วยการประมวลผลจากอัลกอริธึมขั้นสูงและสร้างจากอินพุตที่หลากหลาย ทั้งจากรูปภาพ และวิดีโอ ออกมาเป็นโมเดลสามมิติ ซึ่งมีเครื่องมือมากมายที่มีการนำมาประกอบการทำงานได้ เราจึงรวบรวมเครื่องมือที่การนำ AI มาช่วย 10 อันดับที่มีการเปรียบเทียบโดยเว็บไซต์ eWEEK จะมีแพลตฟอร์มไหนบ้าง

1.Meshcapade

เป็นเครื่องมือสร้างโมเดล 3 มิติที่ใช้อัลกอริธึมขั้นสูงเพื่อสร้างโมเดล 3 มิติตามอินพุตและการตั้งค่าของผู้ใช้ Meshcapade ใช้โมเดลเชิงเส้นหลายบุคคล (SMPL) ที่มีสกินเพื่อขับเคลื่อนเครื่องมือสร้าง ช่วยให้คุณสร้างร่างกายมนุษย์ขึ้นมาใหม่ได้อย่างละเอียดในรายละเอียด แพลตฟอร์มดังกล่าวสามารถสร้างอวตาร 3 มิติที่สมจริงของมนุษย์จากแหล่งข้อมูลต่างๆ รวมถึงภาพถ่าย วิดีโอ การวัดขนาดร่างกาย การสแกน 3 มิติ การจับภาพเคลื่อนไหว และข้อความ

ข้อดี

-ใช้งานง่าย

-มีความแม่นยำในการประมวลผล

ข้อเสีย

-ยังอยู่ในช่วงทดลอง

-รูปแบบการกำหนดราคาที่สับสน

2.Masterpiece X

โปรแกรมสร้างข้อความเป็น 3D AI ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างเนื้อหาที่มีตาข่าย พื้นผิว และภาพเคลื่อนไหวได้ Masterpiece เป็นเครื่องมือที่ไม่ซับซ้อนและใช้งานง่ายซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการสร้างเนื้อหา 3 มิติได้

ข้อดี

-สามารถจำลองการเคลื่อนไหว

-มีไลบรารีโมเดลกว่า 100 แบบ

-ใช้งานง่ายและประมวลผลไว

ข้อเสีย

-ในการสร้างอาคารและสิ่งแวดล้อม

-สามารถปรับปรุงข้อเท็จจริงและผลลัพธ์ได้

3.NeROIC

เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ AI ซึ่งสามารถสร้างโมเดล 3 มิติจากภาพ 2 มิติ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างฉาก 3 มิติจากวิดีโอได้อีกด้วย แบบจำลองของ NeROIC ใช้รูปภาพของวัตถุที่ถ่ายภายใต้สภาวะที่แตกต่างกัน และปรับปรุงความแม่นยำของภาพเหล่านี้โดยการปรับรูปทรงของวัตถุที่สแกนให้เหมาะสมและปรับมุมกล้อง

ข้อดี

-คุณสมบัติหลากหลายและครอบคลุม

-ปรับแต่งได้

ข้อเสีย

-ข้อมูลผลิตภัณฑ์จำนวนจำกัด

-ต้องใช้การเรียนรู้

4.DPT Depth Estimation

เป็นตัวสร้างภาพเป็น 3 มิติที่ใช้สถาปัตยกรรมเครือข่ายเชิงลึกเพื่อประมาณความลึกของภาพอินพุต โดยจะจับความลึกของภาพแล้วใช้ 3D Point Cloud เพื่อสร้างวัตถุ 3 มิติที่มีความแม่นยำสูง ช่วยให้คุณสามารถทำงานต่างๆ เช่น การสร้าง 3D mesh ใหม่ได้

ข้อดี

-มีแอปพลิเคชันที่หลากหลาย

-ฝึกชุดข้อมูลขนาดใหญ่ได้

ข้อเสีย

-ความแม่นยำขึ้นอยู่กับปริมาณข้อมูล

5.Ponzu

เครื่องมือสร้างพื้นผิว AI ที่ใช้งานง่ายซึ่งสร้างโมเดล 3 มิติคุณภาพสูงสำหรับแอปพลิเคชันต่างๆ Ponzu มีส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ที่ใช้งานง่าย สิ่งแรกที่คุณจะเห็นเมื่อเปิดเว็บไซต์คือกล่องข้อความที่คุณสามารถป้อนข้อความแจ้งสำหรับพื้นผิวที่คุณต้องการสร้าง

ข้อดี

-สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์

-มีตัวเลือกปรับแต่งได้

ข้อเสีย

-บางครั้งไม่สามารถดึงข้อมูลได้

6.Spline

เครื่องสร้างงานศิลปะ 3D AI บนเว็บที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างข้อความ 3D, ประสบการณ์ 3D แบบโต้ตอบ, การจำลอง 3D, ระบบควบคุมเกมและฟิสิกส์ รวมถึงการออกแบบตัวละคร 3D Spine ช่วยให้คุณสร้างวัตถุ 3 มิติและมีคุณสมบัติในการแก้ไขวัสดุของวัตถุเหล่านี้ เพิ่มการโต้ตอบ เช่น ภาพเคลื่อนไหว และส่งออกในรูปแบบต่างๆ

ข้อดี

-มีการทำงานแบบลาก - วาง

-มีการจำลองการเคลื่อนไหวแบบฟิสิกส์แบบเรียลไทม์

-มีเทมเพลตให้เลือกเยอะ

-สามารถทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์

ข้อเสีย

-ต้องใช้เวลาเรียนรู้

-แผนฟรีไม่สามารถส่งออกไปในระบบ IOS

7.3DFY AI

เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อลดความจำเป็นในการใช้แรงงานมนุษย์ในการพัฒนาเนื้อหา 3 มิติผ่านระบบอัตโนมัติ ช่วยให้คุณสร้างโมเดล 3 มิติคุณภาพสูงได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 3DFY AI มีแปดหมวดหมู่ ได้แก่ โคมไฟ โซฟา โต๊ะ ออตโตมัน ช้อนส้อม ดาบ โล่ และขวาน

ข้อดี

-ใช้งานง่าย

-สร้างด้วยความรวดเร็ว

ข้อเสีย

-โมเดลจะมีอายุ 72 ชม.

-จำกัดหมวดหมู่เฉพาะ

8.Sloyd

เป็นแพลตฟอร์มการสร้างแบบจำลอง 3 มิติที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างอุปกรณ์ประกอบฉาก อาวุธ ของสะสม และทรัพย์สินทางสถาปัตยกรรม หากต้องการใช้เครื่องมือนี้ ให้เลือกจากหมวดหมู่ที่มีอยู่หรือป้อนข้อความแจ้งในกล่องข้อความ

ข้อดี

-รองรับการสร้างองค์ประกอบฉาก

-มีตัวอย่างการส่งออก

-ปรับแต่งง่าย

ข้อเสีย

-ไม่รองรับการสร้างสินทรัพย์ของมนุษย์

-ต้องป้อนข้อมูลเอง

9.DeepMotio

เป็นตัวสร้างวิดีโอเป็น 3 มิติที่ให้คุณสร้างแอนิเมชันตามหลักฟิสิกส์แบบไดนามิกและสมจริง แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้คุณสร้างและจำลองแอนิเมชันของตัวละครที่เหมือนจริงและโต้ตอบได้ รวมถึงการจับภาพเคลื่อนไหวทั้งตัวและการจำลองปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพ

ข้อดี

-มีการจำลองทางฟิสิกส์

-มีการเคลื่อนไหวที่ราบรื่น

ข้อเสีย

-แผน Freemium มีให้สำหรับการใช้งานส่วนบุคคลและไม่ใช่เชิงพาณิชย์เท่านั้น

-คุณสมบัติการปรับการเคลื่อนไหวให้ราบรื่นมีให้สำหรับผู้ใช้แผนมืออาชีพและสตูดิโอเท่านั้น

10.Rokoko Vision

เครื่องกำเนิด AI จากวิดีโอเป็น 3 มิติ Rokoko เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการจับภาพเคลื่อนไหว พวกเขาได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันซอฟต์แวร์มากมายสำหรับการจับภาพเคลื่อนไหว รวมถึง SmartSuit Pro II ซึ่งเป็นชุดจัดการเคลื่อนไหวทั้งตัวที่จะจัดการเคลื่อนไหวของร่างกายของคุณและสตรีมข้อมูลผ่าน WiFi แบบเรียลไทม์ไปยังตัวละครดิจิทัลของคุณ

ข้อดี

-สามารถส่งออกไปยัง Unreal, Blender และ Maya

-กำหนดเป้าหมายใหม่แบบเรียลไทม์

ข้อเสีย

-แผนฟรีมีการสนับสนุนที่จำกัด และแผนเริ่มต้นของ Rokoko ขาดความสามารถในการสตรีมแบบสด

ซึ่งเครื่องมือแต่ละอันนั้นมีจุดเด่นที่ต่างกันตามการใช้งานแต่ละแบบ โดยการเปรียบเทียบจากรข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ วิเคราะห์ราคา คุณสมบัติหลัก และความสามารถ ตลอดจนข้อดีและข้อเสียของเครื่องมือแต่ละรายการ เพื่อช่วยคุณกำหนดโซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ