ประเภทของ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ มีอะไรบ้าง?

เราอาจจะกล่าวได้ว่าในปัจจุบันนั้น AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ ถือได้ว่าเป็นผู้ช่วยในการทำงานคนสำคัญเลยก็ว่าได้ ทั้งช่วยในการค้นหาข้อมูล รวบรวมข้อมูล คิดและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ แล้ว AI นั้นมีกี่ประเภท และมีการทำงานอย่างไรบ้าง ทางเราได้จำแนกมาให้ ดังนี้

การจำแนกประเภทของ AI ตามการประมวลผล

• AI ประเภท Reactive Machines

ลักษณะโดยทั่วไปของ Reactive Machines AI คือไม่มีหน่วยความจำเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ทำได้เพียงตอบโต้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น แต่ก็มีข้อดีคือทำงานได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะสำหรับงานรับข้อมูลและแสดงผล ยกตัวอย่างเช่น เซนเซอร์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว หรือเซนเซอร์ของระบบตรวจจับอัคคีภัย เป็นต้น

• AI ประเภท Limited Memory

AI ประเภทนี้เป็น AI ที่พัฒนาขึ้นมาจาก AI ประเภท Reactive Machines โดย AI ประเภท Limited Memory นั้นจะมีหน่วยความจำเป็นของตนเอง สามารถเรียนรู้ผ่านข้อมูลชุดเก่าได้ แต่หน่วยความจำยังมีขนาดเล็กและเก็บข้อมูลได้จำกัด ข้อดีของ AI ตัวนี้คือสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่าย เช่น ระบบรักษาความปลอดภัย หรือระบบการขับเคลื่อนด้วยตัวเองของรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น

•  AI ประเภท Theory Of Mind

AI ประเภท Theory Of Mind ยังเป็น AI ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา ให้สามารถเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึก และวัฒนธรรมของมนุษย์ได้ รวมทั้งสามารถประมวลผลคำพูดออกมาเป็นการกระทำ หากสามารถพัฒนาได้สำเร็จแล้ว จะถูกนำไปใช้กับงานที่ซับซ้อน เช่น ระบบแชทบอทที่ตอบโต้กับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติและเข้าใจในอารมณ์ของมนุษย์ หรือหุ่นยนต์ที่สามารถช่วยมนุษย์ตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้

• AI ประเภท Self-Awareness

 AI ประเภท Self-Awareness นี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของการพัฒนา AI เพื่อให้มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด สามารถเรียนรู้และตระหนักรู้ได้ด้วยตนเอง มีความเข้าใจในเรื่องต่างๆ และแสดงความคิดเห็นได้อย่างลึกซึ้งเหมือนกับมนุษย์

การจำแนกประเภทของ AI ตามระดับความสามารถ

• Artificial Narrow Intelligence (ANI) หรือ Weak AI

เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนามาให้สามารถทำงานเฉพาะด้านได้อย่างยอดเยี่ยม จึงมีข้อดีคือตัว AI จะมีความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆเป็นอย่างมาก แต่จะไม่มีความยืดหยุ่น ไม่เปลี่ยนแปลง และไม่สามารถเข้าใจบริบทรอบข้างได้  ยกตัวอย่างเช่น AI ในการเล่นหมากรุก AI ในการช่วยแปลภาษาต่างๆ หรือ AI ในการช่วยเหลือ อาทิ Siri หรือ Google Assistant เป็นต้น

• Artificial General Intelligence (AGI) หรือ Strong AI

Artificial General Intelligence (AGI)  หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” ที่ถูกพัฒนามาให้มีความสามารถเทียบเคียงกับมนุษย์ คิดแบบมนุษย์ และสามารถแก้ปัญหาต่างๆแทนมนุษย์ได้ ในปัจจุบัน AGI ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา ซึ่งยังคงไม่มีตัวจริงออกมา แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้จริง หากนำเทคโนโลยีต่างๆ และเทคโนโลยีของ ANI มาประกอบกัน

• Artificial Super Intelligence (ASI) 

Artificial Super Intelligence (ASI) หรือเรียกอีกชื่อว่า “ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสุดยอด” หมายถึง AI ที่สามารถทำสิ่งต่างๆได้ดีและแม่นยำกว่ามนุษย์ในทุกๆด้าน เช่นการตัดสินใจ ความคิด การวิเคราะห์ และประมวลผลสิ่งต่างๆ อีกทั้งยังอาจจะมีอารมณ์และความรู้สึกที่ไม่ต่างจากมนุษย์เลยก็ได้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อมวลมนุษยชาติ อย่างไรก็ตาม ASI ยังคงเป็นได้แค่เพียงทฤษดีเท่านั้น ยังไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ในขณะนี้