8 อันดับซอฟต์แวร์ AI ออกแบบเว็บไซต์ ปี2024

ซอฟต์แวร์การออกแบบในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นส่วนช่วยเหลือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการพัฒนา ช่วยให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ง่าย และสามารถออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เลือกเทมเพลตที่ต้องการ และสร้างเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาและรูปภาพที่สร้างขึ้นจาก AI

โดยทางเว็บไซต์ eWEEK ได้มีการจัดอันดับซอฟต์แวร์ออกแบบเว็บไซต์ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคาของซอฟต์แวร์ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซอฟต์แวร์ที่สามารถตอบโจทย์ของคุณได้มากที่สุด 8 อันดับพร้อมข้อดีข้อเสียได้ออกมาดังนี้

1.Unbounce

เป็นซอฟต์แวร์ที่มีการนำเสนอการสร้างหน้า Landing Page AI แบบลากและวาง เป็นวิธีที่เข้าใจง่าย คุณสามารถสร้างแลนดิ้งเพจ ป๊อปอัป และแถบคำสั่งต่าง ๆ ได้ตรงตามเป้าหมายและปรับให้เหมาะสมโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโค้ดหรือการพัฒนาเว็บไซต์ อีกทั้งยังมีเครื่องมือในการเขียนโฆษณา AI ช่วยให้สามารถสร้าง รีมิกซ์ และขยายเนื้อหาสำหรับแลนดิ้งเพจ โฆษณา และอีเมลได้ รองรับถึง 6 ภาษา อาทิ ดัตช์ เยอรมัน อังกฤษ สเปน โปรตุเกส และฝรั่งเศส

หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Unbounce คือ Smart Traffic ซึ่งเป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการแปลงที่เรียกเก็บเงินจาก AI ซึ่งจะวิเคราะห์คุณลักษณะของผู้เยี่ยมชมและกำหนดเส้นทางไปยังหน้าเว็บที่ตรงกับบุคลิกของพวกเขาโดยอัตโนมัติ ช่วยให้สร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งงานมากขึ้น

ข้อดี

-ใช้งานง่าย

-สามารถสร้างเว็บไซต์แบบลาก-วางสำหรับหน้า Landing Page

-มีเทมเพลตที่หลากหลาย

ข้อเสีย

-สามารถใช้งานร่วมกับบริการของบุคคลที่สามได้น้อยกว่าซอฟต์แวร์อื่น

-สามารถปรับปรุงการตอบสนองของมุมมองบนมือถือได้

ราคาในการใช้บริการจะเป็นแบบสมัครสมาชิกรายเดือนเริ่มต้นที่ 99 ดอลลาร์ต่อเดือนหรือ 74 ดอลลาร์ต่อเดือน เรียกเก็บเงินเป็นรายปี จำกัดเพียง 1 โดเมน แผน Optimize ในราคา 145 ดอลลาร์ต่อเดือน เรียกเก็บเงินรายเดือนหรือ 109 ดอลลาร์ต่อเดือน เรียกเก็บเงินเป็นรายปี มากถึง 5 โดเมน แผน Accelerate ในราคา 240 ดอลลาร์ต่อเดือน เรียกเก็บเงินรายเดือนหรือ 180 ดอลลาร์ต่อเดือน เรียกเก็บเงินเป็นรายปี มากถึง 10 โดเมน และแผน Concierge เริ่มต้นที่ 625 ดอลลาร์ต่อเดือน เรียกเก็บเงินรายเดือนหรือ 469 ดอลลาร์ต่อเดือน เรียกเก็บเงินเป็นรายปี มากถึง 5 โดเมน ขีดจำกัดโดเมนที่ยืดหยุ่น ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ

2.ClickUp

เป็นเครื่องมือในการจัดการการทำงานและร่วมการทำงานแบบทีม เมื่อไม่นานมานี้ ClickUp ได้มีการเพิ่มคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ ClickUp AI ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำและนำเสนอข้อมูลเชิงลึกสำหรับโครงการออกแบบเว็บไซต์ คาดการณ์วันครบกำหนด และทำงานซ้ำโดยอัตโนมัติ แม้ว่าจะไม่ใช่แพลตฟอร์มที่เป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างเว็บไซต์โดยตรง แต่สามารถช่วยให้คุณจัดการโครงการและงานออกแบบ ติดตามปัญหาและจุดบกพร่อง ทำงานร่วมกับสมาชิกในทีม และกำหนดเวลาได้

ข้อดี

-สามารถใช้งานได้ทุกฟังก์ชันฟรี

-มีเทมเพลตเว็บไซต์เยอะ

-สามารถสร้างงานย่อยได้

-ทำงานร่วมกับแอปมากกว่า 1,000 รายการ รวมถึง GitHub, Slack, Drive, Dropbox และ Figma

ข้อเสีย

-ไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบเว็บไซต์โดยตรง

-เวอร์ชันมือถือมีการจำกัดฟังก์ชันการใช้งาน

ราคาค่าใช้บริการจะมีแผนฟรีให้ใช้บริการและแผนสมัครรายเดือนเริ่มต้นที่ 10 ดอลลาร์ต่อเดือนหรือจ่ายแบบรายปีที่หารเป็นเดือนละ 7 ดอลลาร์ แผนรายเดือนสำหรับธุรกิจที่ 19 ดอลลาร์ต่อเดือนและแบบรายปีหารเป็นเดือนละ 12 ดอลลาร์และแผนแบบองค์กรที่ต้องมีการเสนอราคา หากต้องการใช้ Click UP AI จะต้องจ่ายเพิ่มเดือนละ 5 ดอลลาร์ต่อ 1 ผู้ใช้งาน

3.GoDaddy AI

เป็นเว็บไซต์โฮสติ้งและจดทะเบียนโดเมน ที่มีเครื่องมือสร้างและออกแบบเว็บไซต์ที่มีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยให้สามารถสร้างและปรับแต่งเว็บไซต์ประเภทต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวนั้นมีความโดดเด่นในการพัฒนาเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณเพิ่มและแก้ไขรายการผลิตภัณฑ์ รวมถึงรูปภาพ ราคา และคำอธิบายได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณรับบัตรเครดิต, PayPal, Apple Pay และการชำระเงิน Google Pay

ข้อดี

-ใช้งานง่าย

-เว็บไซต์รองรับแบบมือถือ

-มีการสนับสนุนลูกค้า 24 ชม.

-มีเทมเพลตกว่า 272 แบบ

ข้อเสีย

-มีการจำกัดการทดลองใช้งาน 7 วัน

-SEO ขั้นพื้นฐาน

-บางระดับไม่สามารถใช้งานแบบอีคอมเมิร์ชได้

ราคาค่าใช้บริการจะมีการให้ทดลองใช้งาน 7 วัน มีแผนพื้นฐานเริ่มต้นที่ 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน แผนมาตรฐาน 10.49 ดอลลาร์ แผนพรีเมี่ยม 14.99 ดอลลาร์และอีคอมเมิร์ช 16.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งสามารถจ่ายเป็นรายปีได้

4.10Web

เป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ AI ที่สร้างเว็บไซต์จาก Generative AI โดยจะต้องตอบคำถามเว็บไซต์ที่ต้องการสร้างและจะถูกแปลงออกมาเป็นเว็บไซต์ WordPress ด้วย AI และสามารถแปลงเว็บไปปยัง CMS อื่น ๆ ได้เช่น Wix, Squarespace เป็นต้น นอกจากนี้แล้วยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ เช่นการจัดการแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ การวิเคราะห์ และการจัดการภาษี และยังให้การสนับสนุนเกตเวย์การชำระเงิน เช่น PayPal, Stripe, Google Pay, Apple Pay และการโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง

ข้อดี

-เว็บไซต์รองรับการใช้งานในมือถือ

-ใช้การแก้ไขแบบลากวาง

-คะแนนPageSpeed 90+

ข้อเสีย

-ต้องมีการเรียนรู้การใช้งาน

-มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์

-ปลั้กอินพรีเมี่ยมต้องจ่ายเพิ่ม 100 ดอลลาร์

ราคาค่าใช้บริการจะมีการเสนอราคาตามหมวดหมู่สามประเภท ได้แก่ ธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ และเอเจนซี่ ซึ่งแต่ละหมวดหมู่จะมีราคาที่แตกต่างกันต้องมีการเปรียบเทียบเพิ่ม

5.Web.com

เป็นแพลตฟอร์มที่มีการผสานการออกแบบเว็บไซต์ ปัญญาประดิษฐ์เข้ากับโฮสติ้งโดเมนและบริการทางการตลาด มีเครื่องมือเว็บไซต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ช่วยมาใช้ในการสร้างเว็บไซต์ที่ดูเป็นมืออาชีพ รองรับร้านค้าออนไลน์และอีคอมเมิร์ซ สามารถจัดหน้าเว็บไซต์แบบลาก-วาง ช่วยให้ปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ เช่น แบนเนอร์ แกลเลอรี และแบบฟอร์มเพื่อให้เหมาะกับธุรกิจ

ข้อดี

-มีข้อเสนอแนะนำราคาถูก

-มีการสนับสนุนการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ

-แผนทั้งหมดรวมความเป็นส่วนตัวของโดเมนสูงสุด 1 ปี อีเมลระดับมืออาชีพ 3 เดือนและใบรับรอง SSL 1 เดือนฟรี

-มีการสนับสนุนลูกค้าผ่านทางอีเมล โทรศัพท์ และแชทสดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

ข้อเสีย

-มีการปรับแต่งที่จำกัด

-ใช้งานยาก ต้องมีการทำความเข้าใจ

ราคาแผนการใช้บริการของ Web.com รวมการลดราคาในการเรียกเก็บเงินตั้งแรกเริ่มต้นที่ 19.99 ดอลลาร์หรือเดือนละ 15.99 ดอลลาร์ต่อเดือนเมื่อจ่ายเป็นรายปี เว็บไซต์+การตลาดที่ราคา 24.99 ดอลลาร์ต่อเดือนหรือเดือนละ 21.99 ต่อเดือนเมื่อจ่ายแบบรายปี แบบร้านค้าเดือนละ 34.99 ดอลลาร์ต่อเดือนหรือเดือนละ 29.99 ดอลลาร์เมื่อจ่ายแบบรายปี แบบการตลาดออนไลน์เดือนละ 49.99 ดอลลาร์ต่อปีหรือเดือนละ 44.99 เมื่อจ่ายรายปี และบริการเว็บไซต์ QuickStart ค่าธรรมเนียมครั้งเดียว $149

6.Wix ADI

Artificial Design Intelligence (ADI) ของ Wix เป็นฟีเจอร์ขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่จะช่วยสร้างและออกแบบเว็บไซต์ สามารถสร้างเว็บไซต์ได้อัตโนมัติจาก AI มีเทมเพลตให้เลือกกว่า 900 แบบและสามารถแก้ไขได้แบบลาก-วาง เมื่อสร้างเว็บไซต์ระบบจะถามคำถามหลายข้อเพื่อทำความเข้าใจธุรกิจหรือวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ ADI จะสร้างการออกแบบเว็บไซต์ รวมถึงเค้าโครง โทนสี และแบบอักษรที่เหมาะสม

ข้อดี

-มีคุณสมบัติที่หลากหลาย

-มีเทมเพลตที่หลากหลายและทันสมัย

-มีการสนับสนุนลูกค้าทั้งแชทและโทรศัพท์ 24 ชม.

ข้อเสีย

-ปลั๊กอินบุคคลที่สามต้องจ่ายเพิ่ม

-มีผู้ใช้ใหม่เยอะ

ราคาการใช้บริการต่าง ๆ เชื่อมต่อโดเมน 4.50 ดอลลาร์ต่อเดือนจำกัดพื้นที่เก็บข้อมูลที่ 500 MB แบบคอมโบ 8.50 ดอลลาร์ จำกัดที่เก็บข้อมูลที่ 3 GB แบบไม่จำกัด 12.50 ดอลลาร์ จำกัดที่เก็บข้อมูล 10 GB และแบบ VIP 24.50 ดอลลาร์ต่อเดือน จำกัดที่เก็บข้อมูล 50 GB

7.Dorik

เป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่มีเทคโนโลยี AI ที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพในการสร้างเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาจำนวนมากและระบบจัดการเนื้อหา (CMS) Dorik มีตัวเลือกเทมเพลตมากมายที่ออกแบบมาสำหรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา รวมถึงบล็อก พอร์ทัลข่าว ไดเรกทอรี และไซต์ที่ให้ข้อมูล มีบล็อกเนื้อหาและเทมเพลตที่ออกแบบไว้ล่วงหน้าที่หลากหลาย

ข้อดี

-มีแผนใช้งานฟรีที่มีฟังก์ชันที่ใช้งานได้หลากหลาย

-มีการเสนอบล็อก UI มากถึง 250+ รายการ

-สร้างรายได้ด้วยการเป็นสมาชิก

-หน้าโหลดเร็ว

ข้อเสีย

-แผนฟรีไม่รองรับ SEO และเอเจนซี่

-บูรณาการอย่างจำกัด

-คุณสมบัติอีคอมเมิร์ซเล็กน้อย

ในการใช้บริการนั้นมีแผนฟรีที่รองรับการสมัครสมาชิกสูงสุดที่ 500 คน เพจที่ 25 เพจ และผู้ร่วมงาน 2 คน และแบบมีค่าใช้จ่ายรายเดือนแบบส่วนบุคคล 19 ดอลลาร์หรือ 180 ดอลลาร์ต่อเดือน แบบธุรกิจ 49 ดอลลาร์ต่อเดือนหรือ 468 ต่อปี แบบเอเจนซี่ 299 ต่อเดือนหรือ 2,868 ต่อปี และแบบกำหนดเองติดต่อถามราคา

8.Hostinger

เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในเว็บคลาวด์และโซลูชันโฮสติ้ง VPS มีบริการเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ AI ที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับบุคคลหรือสตาร์ทอัพที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ที่เรียบง่ายหรือเป็นส่วนตัว เครื่องมือนี้สามารถสร้างเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ เลือกรูปถ่ายสต๊อกปลอดค่าลิขสิทธิ์ และเลือกแบบอักษรและชุดสีสำหรับเว็บไซต์ของคุณ และมีเครื่องมือการเขียนคำโฆษณา AI, แผนที่ความร้อนของ AI, เครื่องมือ AI SEO, การผสานรวม Google Analytics และเครื่องมืออีคอมเมิร์ซ

ข้อดี

-ไม่จำกัดความจุ

-รองรับวิธีในการชำระเงินมากกว่า 20 วิธี

-มาพร้อมกับ Hostinger Web Hosting

-ไลบรารีรูปภาพที่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์

ข้อเสีย

-ไม่อนุญาตให้คุณเปลี่ยนเทมเพลตเมื่อใช้งานจริง

-การสนับสนุนลำดับความสำคัญมีให้เฉพาะสมาชิกแผนเริ่มต้นระบบคลาวด์เท่านั้น

มีการชำระค่าบริการแบบพรีเมี่ยมในราคา 2.49 ดอลลาร์ต่อเดือน แบบธุรกิจราคา 3.69 ดอลลาร์ต่อเดือน และCloud Startup ในราคา 8.99 ดอลลาร์และ 19.99 ต่อเดือน