Technology

How to ขายของออนไลน์ยังไงให้ปัง

2024-01-23 02:08:13




เคล็ดลับสู่ความสำเร็จในการขายออนไลน์


การขายของออนไลน์ถือว่าเป็นการทำสงครามทางการตลาดอย่างหนึ่ง จากการที่มีตลาดขนาดใหญ่ ด้วยความสามารถของตลาดที่เข้าถึงได้ง่าย จึงทำให้การทำการตลาดขายออนไลน์นั้นมีคู่แข่งจำนวนมากมาย การวางแผนการตลาดที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถต่อสู้และเข้าใจวิธีการทำการตลาดที่นี่ได้


ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจในเรื่องการทำตลาดในยุคปัจจุบัน เทรนในการทำการตลาดก่อนว่ามีเทรนไหนบ้างที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วงต้นปีนี้

-การทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Persanalization Reimagined) คือการให้บริการและสื่อสารกับลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจง โดยใช้เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งาน และปรับการแสดงผลให้เข้ากับพฤติกรรม ที่เห็นได้ชัดเลยคืออัลกอริทึมของ Netfilx Amazon Spotify เป็นต้น

-การค้นหาด้วยเสียง (Voice Serch And Conversation Markething) คือการทำการตลาดโดยเน้นไปที่การสนทนาด้วยเสียงในการค้นหาข้อมูล เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการสนทนาที่มีความเป็นธรรมชาติ โดยนำเทคโนโลยีอย่าง Chatbot. Voice Assistant หรือ AI เข้ามามีบทบาทในการตอบคำถามแก้ปัญหา และข้อสงสัยให้กับลูกค้าได้ตลอดเวลา ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับหลาย ๆ แพลตฟอร์ม

-วิดีโอคอนเทนต์แบบแล้วตั้ง (Vrtical Video) คือการใช้วิดีโอแนวตั้งแบบสั้น ที่มีความยาวไม่เกิน 15 วินาที เพื่อสื่อสารทางการตลาดซึ่งหาย ๆ แพลตฟอร์มได้มีการนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายหลังจากความนิยมจากแอปพลิเคชัน TikTok นั้นเองถือว่าเป็นการทำการตลาดแบบใหม่ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งการทำการตลาดแบบนี้จะเป็นการสร้างความสนใจ การแสดงความคิดเห็น และแชร์คอนเทนต์ไปอย่างแพร่หลาย

-การใช้เทคโนโลยี AR และ VR (Augmented Reality and Virtual Reality) เป็นการทำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับการขายสินค้า เพื่อสร้างประสบการณ์ในการสัมผัสสินค้าที่เสมอจริง เช่นการทดลองสินค้า


เมื่อทำความเข้าใจในเทรนที่กำลังเป็นที่นิยมแล้วลองวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่จะนำเทรนนั้นเข้ามาใช้กับการขายของออนไลน์ของคุณอย่างไร ซึ่งต้องมีการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของเรา ว่าต้องใช้วิธีการไหนเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้ Target Market Analysis โดยกระบวนการศึกษาพฤติกรรมและวิเคราะห์ลูกค้าโดยอาศัยข้อมูลจากข้อมูลประชากร พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ พฤติกรรม และจิตวิทยา เป็นต้น โดยจะมีขั้นตอนอยู่ 3 ขั้นตอน ดังนี้

-การแบ่งกลุ่มลูกค้า (Segmentation) คือ การแบ่งตลาดออกเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีลักษณะเฉพาะ โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มคนหรือผู้สนใจเข้ามาช่วยระบุความเฉพาะเจาะจง

-การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Targeting) คือ การตัดสินใจกำหนดกลุ่มเป้าหมายโดยการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ดีที่สุดในปัจจุบัน โดยใช้ข้อมูลจาก Segmentation มาวิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายไหนคือกลุ่มที่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงมาเป็นลูกค้าที่คุณต้องการมากที่สุด

-การวางตำแหน่งทางการตลาด (Positioning) คือ การวางตำแหน่งทางการตลาด เพื่อกำหนดจุดขายและจุดยืน เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้ โดยพิจารณาจากการแบ่งกลุ่มลูกค้า (Segmentation) และจุดที่ลูกค้ามีปัญหา (Pain Point) จากกลุ่มเป้าหมาย (Targeting)


เมื่อเราได้ทราบถึงกลุ่มเป้าหมายและพฤติกรรมการใช้งาน ก็สามารถนำข้อมูลส่วนนี้มาใช้ในการสร้างแบรนด์ (Branfing) เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์และความแตกต่างระหว่างสินค้าที่มีอยู่ในตลาด อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือ สร้างฐานลูกค้าประจำกระตุ้นการส่งต่อและชักชวนระหว่างกลุ่มเป้าหมาย โดยขั้นตอนในการสร้างแบรนด์อยู่ 7 ขั้นตอนคือ

1.ศึกษาคู่แข่งของแบรนด์

2.เก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย

3.ออกแบบบุคลิกภาพของแบรนด์ (Brand Personality)

4.สร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity)

5.การสื่อสารกับผู้บริโภคโดยใช้ Brand Marketing

6.ยืนหยัดในจุดยืนของแบรนด์ (Brand Positioning)

7.ตรวจสอบและวัดผลคุณภาพตลอดเวลา


เมื่อคุณสามารถเข้าใจในเทรน เข้าใจในกลุ่มเป้าหมายและสามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักคำถามที่ว่าขายของออนไลนยังไงให้ปัง ก็ถือว่าคุณนั้นมีคำตอบในการขายของออนไลน์แล้ว นอกจากนี้แล้วยังมีเทคนิคอื่น ที่สามารถทำให้การทำการตลาดออนไลน์ของคุณนั้นแข็งแกร่งมากขึ้น และการทำการตลาดในการขายของออนไลน์นั้นจะต้องมีการทำการตลาดแบบสม่ำเสมอ เพื่อรักษาฐานของลูกค้าอีกด้วย

ร่วมเเสดงความคิดเห็น :

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

บทความที่น่าสนใจอื่นๆยังมีอีกมากลองเลืือกดูจากด้านล่างนี้ได้นะครับ