2023-10-20 09:55:24
การนับจำนวนคำนั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการออกแบบเว็บไซต์เป็นอย่างมาก ซึ่งเนื้อหาในแต่ละบรรทัดนั้นไม่ความมีคำที่เกิน 50-70 คำ แต่ในบทความ SEO นั้นสำคัญมากเช่นกัน บทความยาวขนาดประมาณ 1 หน้ากระดาษ A4 จะได้ประมาณ 500 - 600 คำ การนับจำนวนคำมีส่วนช่วยในทุกๆ บทความ มีปริมาณของจำนวนคำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับบทความเพื่อการทำ SEO
เครื่องมือนับจำนวนคำเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถนับจำนวนคำ ตัวอักษร หรือประโยคในข้อความได้อย่างง่ายดาย มีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการเครื่องมือนี้ฟรี เช่น [Word Counter] [Character Counter] หรือ [Count Wordsworth] คุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่ตรงกับความต้องการของคุณได้ บางเครื่องมือยังมีฟังก์ชันพิเศษ เช่น การแสดงค่า SEO การแสดงค่าอ่านและพูด การแสดงคำที่ใช้บ่อย หรือการแสดงข้อมูลทางสถิติของข้อความ
จำนวนคำโดยปกติของบทความแต่ละประเภท
-บทความ SEO คือบทความที่เขียนเพื่อให้ติดอันดับการค้นหาอันดับต้นๆ ได้จากผลการศึกษาข้อมูลของ HubSpot ในปี 2021 พบว่าบทความ SEO ควรมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 2,100-2,400 คำ สำหรับบทความ SEO โดยส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะมีความยาวอยู่ที่ 1,000 ต้นๆ
-บทความข่าว คือบทความที่นำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหรือใกล้เคียง โดยปกติเนื้อหาจะครอบคลุมหกคำถามคือ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร ทำไม และ อย่างไร บทความข่าวไม่จำเป็นต้องยาวมาก เพียงแต่ให้สื่อถึงข้อสาระสำคัญได้ชัดเจนและถูกต้อง เช่น 300-500 คำ
-บทความสารคดี คือบทความที่นำเสนอข้อมูลในแบบที่สร้างสรรค์และออกไปในทางพรรณนามากกว่าบทความข่าว เรื่องที่นำเสนออาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคล ปรากฏการณ์ สถานที่ หรือเรื่องอื่นๆ บทความสารคดีต้องการให้ผู้อ่านได้ภูมิปัญญาและประสบการณ์จากการอ่าน เช่น 1,000-2,000 คำ
-บทบรรณาธิการ คือบทความที่นำเสนอความคิดเห็นของผู้เขียนในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งหรือเรื่องซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพื่อโน้มน้าวให้ผู้อ่านเกิดความคิดและการกระตุ้นในหัวข้อนั้น บทบรรณาธิการควรมีเหตุผลและอ้างอิงที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น 800-1,200 คำ
-บทความสาธิตวิธีการ คือบทความที่ให้คำแนะนำและข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จ บทความสาธิตวิธีการควรมีขั้นตอนที่ละเอียดและง่ายต่อการปฏิบัติ เช่น 500-1,000 คำ
-บทความกึ่งชีวประวัติ คือบทความที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยใช้ข้อมูลที่นักเขียนรวบรวมจากการสัมภาษณ์และค้นคว้าภูมิหลังมาเขียนบทความ บทความกึ่งชีวประวัติต้องการให้ผู้อ่านได้รู้จักและเข้าใจบุคคลที่เขียนถึง เช่น 1,500-2,500 คำ
ความสำคัญของการนับจำนวนคำ
-การนับจำนวนคำช่วยให้คุณปรับปริมาณของเนื้อหาให้เหมาะสมกับงานที่คุณต้องทำ เช่น บทความเพื่อการทำ SEO นักเขียนหรือนักประพันธ์ ตลอดไปจนถึงอาจารย์ นักเรียนและนักศึกษา การมีจำนวนคำที่ไม่เกินหรือไม่ขาดไปจากเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จะช่วยให้เนื้อหาของคุณมีความสมบูรณ์และไม่เหลือเชื่อ
-การนับจำนวนคำช่วยให้คุณวิเคราะห์ความหนาแน่นของคำหลัก (Keyword Density) ในบทความของคุณ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO การใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องและตรงกับผู้ใช้งานเสิร์ชเอ็นจิน (Search Engine) เป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหา (Search Engine Result Page เรียกย่อๆ SERP) แต่ถ้าใช้คำหลักมากเกินไป จะถูกมองว่าเป็นการสแปม (Spam) และลดค่า SEO ของเว็บไซต์
-การนับจำนวนคำช่วยให้คุณตรวจสอบและบันทึกข้อมูลทางเศรษฐกิจ เช่น การจ่ายเงินโดยใช้อัตราร้อยละของจำนวนคำ เพื่อให้การทำการตลาดผ่านเสิร์ชเอ็นจิน (Search Engine Marketing หรือ SEM) เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การนับคำหลัก (Keyword Density)
Keyword Density คือความหนาแน่นของคำหลักในบทความ หรือความถี่ในการปรากฏของคำหลักในหน้าเว็บ ซึ่งมีผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์บนเสิร์ชเอ็นจิน เช่น Google
การนับ Keyword Density สามารถทำได้โดยใช้สูตรง่ายๆ ดังนี้
(จำนวนครั้งที่คำหลักปรากฏ / จำนวนคำทั้งหมด) x 100
ตัวอย่างเช่น ถ้าบทความมี 1000 คำ และมีคำหลัก “SEO” ปรากฏ 10 ครั้ง จะได้ Keyword Density เป็น
(10 / 1000) x 100 = 1
การใส่ Keyword Density เหมาะสมในบทความจะช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของเราได้ดีขึ้นและติดอันดับสูงขึ้น แต่ถ้าใส่เยอะเกินไปหรือไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา Google จะมองว่าเป็นการสแปม (Spam) และลดค่า SEO
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ใส่ Keyword Density ประมาณ 1-3% และกระจายคำหลักให้อ่านได้อย่างธรรมชาติ
ถ้าคุณต้องการตรวจสอบ Keyword Density ของบทความของคุณ คุณสามารถใช้เครื่องมือออนไลน์ที่มีบริการฟรี เช่น SEO Quake , CanCount DocTranslator เป็นต้น
เครื่องมือการนับคำ
-CanCount เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการเครื่องมือนับคำออนไลน์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ คุณสามารถคัดลอกบทความและวางข้อความลงในช่องนับคำที่ปรากฏด้านล่าง หรือเลือกไฟล์ (.pdf, .docx, .txt) จากอุปกรณ์ของคุณ เพื่อทราบจำนวนคำ จำนวนตัวอักษร เวลาที่ใช้ในการอ่าน และเวลาที่ใช้ในการพูด และยังสามารถวิเคราะห์ความหนาแน่นของคำหลักในบทความได้อีกด้วย
-thcount.com เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการเครื่องมือนับคำเฉพาะภาษาไทย โดยใช้อัลกอริทึ่มสำหรับการนับคำภาษาไทยโดยการเทียบกับฐานข้อมูลพจนานุกรมคำศัพท์ของ Lexitron โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และยังมีการพัฒนาคำสั่งในการคำนวณคำเพิ่มเติมเพื่อให้การนับคำที่ได้มีความใกล้เคียงกับการประมวลผลของ Ms-Word
-Adobe Scan App เป็นแอปพลิเคชันสำหรับสแกนเอกสารและแปลงเป็น PDF โดยสามารถสแกนเอกสารที่มีข้อความจากรูปถ่ายหรือกล้อง และสามารถเลือกข้อความจากรูปถ่าย เพื่อทำ OCR (Optical Character Recognition) และส่งข้อมูลไปยัง Adobe Document Cloud เพื่อใช้ในการแก้ไข แชร์ หรือบันทึกได้
-Microsoft Word เป็นโปรแกรมสำหรับการประมวลผลข้อความ โดยสามารถทราบจำนวนคำ หน้า อักขระ ย่อหน้า หรือบรรทัดของเอกสาร โดยการตรวจสอบแถบสถานะ หรือเลือกเมนู “เครื่องมือ” เลือก “วิเคราะห์” จากนั้นเลือก “นับคำ”
-DocTranslator เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการแปลเอกสารและนับคำในรูปภาพ โดยสามารถอัปโหลดไฟล์รูปภาพ (.jpg, .png, .gif) หรือ PDF ที่มีข้อความ แล้วเลือกภาษาที่ต้องการแปล และคลิกที่ปุ่ม “แปล” เพื่อดูผลลัพธ์
-DocTranslator เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการแปลเอกสารและนับคำใน PDF โดยสามารถอัปโหลดไฟล์ PDF ที่มีข้อความ แล้วเลือกภาษาที่ต้องการแปล และคลิกที่ปุ่ม “แปล” เพื่อดูผลลัพธ์
สรุปแล้วบทความยาวประมาณ 1 หน้ากระดาษ A4 จะมีคำศัพท์ประมาณ 500 - 600 คำ เครื่องมือนับจำนวนคำเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณนับจำนวนคำ ตัวอักษร หรือประโยคในข้อความได้อย่างง่ายดาย มีเว็บไซต์หลายแห่งที่ให้บริการเครื่องมือนี้ฟรี เช่น [Word Counter], [Character Counter] หรือ [Count Wordsworth] เพื่อให้การทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา (Search Engine Marketing หรือ SEM) เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2024-06-10 03:19:31
2024-05-31 03:06:49
2024-05-28 03:09:25
2024-05-24 11:26:00
บทความที่น่าสนใจอื่นๆยังมีอีกมากลองเลืือกดูจากด้านล่างนี้ได้นะครับ
2024-04-03 05:56:16
2023-12-12 04:45:33
2023-10-17 04:05:22
2023-10-26 05:02:33
2024-10-18 03:20:01
2024-08-13 11:35:08
2024-01-05 03:55:22
2024-01-04 04:58:24
2024-04-30 04:47:37