Non-Fungible Tokens (NFT) คืออะไร งานศิลปะ? ขายภาพ?

Non-Fungible Tokens (NFT) คืออะไร งานศิลปะ? ขายภาพ?

Non-fungible tokens (NFTs) คือทรัพย์สินดิจิทัลที่อยู่ในรูปแบบงานศิลป์ เพลง ไอเท็มในเกม วิดีโอ ฯลฯ ที่มีการซื้อขายทางออนไลน์ หลาย ๆ ครั้งจะใช้ Cryptocurrency และการใช้คีย์เข้ารหัส ในการแลกเปลี่ยนโดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2014 NFT ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในตลาดสำหรับการซื้อขาย NFT มีมูลค่าถึง 41 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 โดยทั่วไปแล้ว NFT จะไฟล์ที่มีการเข้ารหัสไม่ซ้ำกัน ซึ่งต่างจากการขายงานศิลปะปกติ

NFT จำนวนมากในช่วงแรกจะถูกสร้างมาจากสิ่งที่มีอยู่แล้วเช่น คลิปไวรัลจากเกม NBA ซึ่งศิลปินหลาย ๆ คนได้มีการสร้างสรรค์ผลงานมากมาย เพื่อแข่งขันในตลาด NFT เช่น Mike Winklemann ศิลปินดิจิทัลชื่อดัง หรือที่รู้จักกันในนาม "Beeple" สร้างสรรค์ผลงานภาพวาด 5,000 ภาพต่อวันเพื่อสร้าง NFT ที่โด่งดังที่สุดในปี 2021 "EVERYDAYS: The First 5000 Days" ซึ่งขายได้ที่ Christie's ด้วยราคาทำลายสถิติ 69.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

แล้วทำไมพวกเขาถึงยอมที่จะซื้อ NFT ละ ทั้ง ๆ ที่สามารถดูรูปภาพพวกนี้ได้ทางอินเทอร์เน็ตฟรีละ

NFT ช่วยให้ผู้ซื้อเป็นเจ้าของสินค้าต้นฉบับได้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการรับรองความถูกต้องในตัวซึ่งทำหน้าที่เป็นหลักฐานการเป็นเจ้าของ นักสะสมให้ความสำคัญกับ "สิทธิ์ในการครอบครอง" งานศิลปะเหล่านี้

NFT แตกต่างกับ Cryptocurrency

NFT นั้นย่อมาจาก Non-fungible tokens จะถูกสร้างขึ้นโดยการเขียนโปรแกรมแบบเดียวกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งตัวของสกุลเงินดิจิทัลนั้นจะสามารถแลกเปลี่ยนได้ในมูลค่าที่เท่ากัน แต่NFT จะมีลายเซ็นดิจิทัลที่ทำให้มูลค่า NFT นั้น ไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือเทียบมูลค่าให้เท่ากันได้

NFT ทำงานอย่างไร

NFT นั้นจะทำงานบน Blockchain เป็นบัญชีแยกประเภทสาธารณะแบบกระจายที่บันทึกธุรกรรม โดยส่วนมากจะสร้างอยู่บน Ethereum โดยจะเป็นตัวแทนของสิ่งที่จับต้องได้และไม่ได้เช่น งานศิลปะ GIF วิดีโอ ของสะสม อวตารหรือสกินในเกม และดนตรีเป็นต้น ซึ่งตัว NFT เป็นของสะสมอย่างหนึ่งที่เป็นไฟล์ดิจิทัลเท่านั้น และคนที่ทำการซื้อ NFT จะมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว สามารถใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการตรวจสอบการเป็นเจ้าของ และโอนกรรมสิทธิ์

NFT มีประโยชน์ยังไง?

เทคโนโลยี Blochchain และ NFT ช่วยให้ศิลปินและผู้สร้างเนื้อหามีโอกาสพิเศษในการสร้างรายได้จากสินค้าของตน ตัวอย่างเช่น ศิลปินไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแกลเลอรีหรือร้านประมูลเพื่อขายงานศิลปะอีกต่อไป แต่สามารถขายในรูปแบบ NFT ได้เลย อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรมากขึ้น

ถ้าอยากเป็นเจ้าของ NFT ต้องทำอย่างไร

1.สร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล

คุณจำเป็นต้องมีกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อใช้ในการเก็บ NFT และสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งคุณซื้อสกุลเงินดิจิทัล เช่น Ethereum และสกุลเงินอื่น ๆ ในการแลกเปลี่ยนกับ NFT

2.เลือกตลาด

เมื่อคุณเตรียมกระเป๋าเงินแล้วคุณจะต้องเลือกตลาด NFT ที่คุณสนใจ เช่น Opensea.io Rarible และ Foundation

3.เลือกผลงานที่ชอบ

เมื่อคุณได้ตลาดที่ต้องการแล้ว คุณสามารถเลือกผลงานที่คุณสนใจได้และซื้อขายตามแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น ใน Opensea จะมีการซื้อขายสองรูปแบบคือการประมูลและการซื้อขาด เมื่อซื้อขายเสร็จแล้ว NFT ก็จะเข้าไปอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัล

คุณควรซื้อ NFT หรือไม่

ในช่วงปีที่ผ่านมาตลาด NFT นั้นเป็นช่วงขาลงเป็นอย่างมาก ซึ่งต่างจากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เหมือนเป็นฟองสบู่ที่เปราะบาง และมีความเสี่ยงเป็นอย่างมากด้วยความไม่มั่นคงถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง แต่จะไม่เหมือนหุ้นเพราะมูลค่าของ NFT ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนอื่นยินดีจ่ายทั้งหมด อีกทั้งต้องมีการจ่ายภาษีแบบเดียวกับหุ้นอีกด้วย การลงทุนใน NFT ในตอนนี้จะต้องมีการศึกษา และทำความเข้าใจในความเสี่ยงเป็นอย่างมาก ถ้าคุณตัดสินใจลงทุนไปแล้วจะต้องยอมรับความเสี่ยงนั้นได้และลงทุนในจำนวนที่พอดี