CMS นั้นมีราคาถูกสำหรับการสร้างเว็บไซต์ทั่วไป แต่ไม่ได้ครอบคลุมถึงการเติบโตและการดูแลรักษาในอนาคต เมื่อมีการเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น จำเป็นต้องมีฟังก์ชันการใช้งานมากขึ้น ซึ่งตัว CMS นั้นไม่ได้มีการรองรับฟีเจอร์นี้เท่ากับการพัฒนาเว็บไซต์เอง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมไม่ช้าก็เร็ว คุณจะเจออุปสรรคและต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายเป็นสองเท่า 

การพัฒนาเว็บไซต์เองหมายถึงการเขียนโค้ดตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งมักจะใช้เวลานานกว่าการสร้างเว็บไซต์โดยใช้ระบบ CMS ซึ่งระบบ CMS นั้นจะมีความได้เปรียบมากกว่าเพราะในระบบช่วยเหลือในการออกแบบนั้นมีฟีเจอร์ที่ช่วยลดเวลาการสร้างและตอบสนองต่อความต้องการ แต่การพัฒนาเว็บเองนั้นใช้เวลานานกว่าแต่สามารถสร้างเว็บไซต์ที่โดดเด่น และไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังรองรับการอัพเดทในอนาคต 

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่สามารถทำให้เว็บไซต์นั้นเติบโตขึ้นได้นั้นคือผู้ใช้ ซึ่งการ ทำให้ผู้ใช้งานนั้นรู้สึกตกหลุมรักเว็บไซตืตั้งแต่ครั้งแรกและอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้นนั้นมีปัจจัยอยู่ 3 ข้อ 

ทั้ง 2 วิธีการนั้นสารมารถออกแบบหน้าตาของเว็บออกมาได้สวยงาม ระบบ CMS จะทำโดยใช้เทมเพลตที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่มีอยู่แล้ว ส่วนการพัฒนาด้วยตนเองนั้น จะต้องกำการออกแบบเองตั้งแต่ต้น 

          2. Performance 

 นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกของเว็บไซต์แล้วตัวประสิทธิภาพการใช้งานนนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่จะให้ตัวผู้ใช้งานนั้นสนใจ ซึ่งในด้านนนี้การพัฒนาเว็บไซต์เองนั้นจะถือว่าได้เปรียบกว่าระบบ CMS เพราะเนื่องจากความสามารถในการออกแบบระบบปฏิบัติการในเว็บไซต์นั้นสามารถทำงานได้ดีเมื่อมีการใช้งานเว็บไซต์จำนวนมากและมีการวางฟังชันรองรับได้นั้นเอง 

เนื่องจากเว็บไซต์ที่สร้างด้วย CMS ส่วนใหญ่จะเป็นแบบคงที่ ผู้ใช้จึงไม่สามารถโต้ตอบกับเว็บไซต์หรือดำเนินการใดๆ เพิ่มเติมได้ซึ่งต่างจาก เว็บที่พัฒนาเอง เพราะเว็บไซต์สามารถรวมฐานข้อมูลขนาดใหญ่และฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย เช่น การจัดเรียงผลิตภัณฑ์ตามหมวดหมู่ที่เลือก เป้นต้น 

4. ความยืดหยุน 

CMS มีข้อจำกัดโดยโครงสร้างพื้นฐานของแพลตฟอร์มที่ใช้ในการสร้าง ในขณะที่การพัฒนาเว็บไซต์เองนั้นไม่ได้ถูกจำกัด ด้วยเหตุนี้ ด้วยการพัฒนาเว็บแบบกำหนดเอง จึงสามารถเพิ่มคุณสมบัติเพิ่มเติมที่จำเป็นทั้งหมดลงในโค้ดได้โดยตรง แต่ CMS ใช้ปลั๊กอินจากไลบรารีแบบเปิด และลดคุณภาพของประสิทธิภาพเนื่องจากไม่ซิงโครไนซ์กัน นอกจากนี้ นักพัฒนาบุคคลที่สามยังสร้างปลั๊กอินที่ทำให้เกิดการขึ้นเชื่อมต่อจำนวนและส่งผลต่อความปลอดภัยในอนาคต 

5. ความปลอดภัย 

ไม่มีใครอยากมอบรหัสผ่านและข้อมูลส่วนบุคคลให้กับเว็บไซต์โดยไม่มีการรับประกันความปลอดภัย ซึ่งระบบ CMS จะอนุญาตให้ผู้เขียนปลั๊กอินที่ไม่รู้จักเข้าถึงเว็บไซต์ได้ แต่การพัฒนาเว็บไซต์เองจะสามารถควบคุมโค้ดเต็มรูปแบบและให้การเข้ารหัส ซึ่งปลอดภัยกว่า 

สุดท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจที่มันจะส่งผลต่อเว็บไซต์ทางธุรกิจของคุณว่าจะใช้วิธีการใดให้เข้ากับความต้องการตามปัจจัยนั้น ๆ ซึ่งระบบการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป(CMS) นั้นมีราคาที่ถูกกว่าและใช้เวลาในการพัฒนาสั้นกว่า สามารถพัฒนาเว็บไซต์ผ่านทางเทมเพจและพัฒนาต่อได้เลย ไม่มีความซับซ้อนในการพัฒนา แต่ขาดความยืดหยุ่นในการพัฒนาต่อในอนาคต ความเป็นเอกลักษณ์และความปลอดภัยในระยะยาว ส่วนการพัฒนาเว็บไซต์เองนั้นถือเป็นอีกทางเหลือที่ดีเพราะสามารถยืดหยุ่นในการใช้งานสามารถรองรับผู้ใช้ได้จำนวนมาก มีความเป็นเอกลักษณ์ และความปลอดภัยในระยะยาว แต่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาค่อนข้างนานและราคาจะแพงกว่าระบบการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป(CMS)  แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยวิธีเสิร์จเอ็นจิ้น ด้วยความสามารถ SEO