มนุษย์และ AI กับการอยู่ร่วมในสังคม

เมื่อ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในสังคมสร้างโอกาสและความท้าทายในการพัฒนาโมเดล AI ใหม่ ๆ ขึ้นมาหลายหมื่นโมเดล การส่งเสริมให้เกิดไดนามิกที่สามารถกำหนดทิศทางเชิงบวกได้ ด้วยการจัดการอย่างรอบคอบและเผื่อปรับในอนาคต ซึ่งแนวทางใช้งาน AI มาปรับใช้ได้หลากหลายแนวทาง อาทิ

ด้านทำงานร่วมกันและเพิ่มประสิทธิภาพ

-Complementary Abilities คือระบบ AI สามารถประมวลผลวิเคราะห์ข้อมูลด้วยความรวดเร็วและขนาดใหญ่กว่าที่เกินความสามารถของมนุษย์

-Augmentation คือการนำเทคโนโลยี AI มาเพิ่มความสามารถของมนุษย์ได้ โดยช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ การศึกษา หรือขั้นตอนในการวิเคราะห์คดีเป็นต้น

ด้านเศรษฐกิจและสังคม

-Job Transformation คือ AI เข้ามาจัดการตลาดแรงงานมากขึ้น ช่วยการทำงานสบายมากขึ้น และช่วยในการคิดโปรแกรมการศึกษา การฝึกอบรม เพิ่มศักยภาพแบบรายบุคคลแบบเรียลไทม์

-Social Benefits คือAI มีศักยภาพในการจัดการกับความท้าทายทางสังคมที่ซับซ้อน เช่น การปรับปรุงผลลัพธ์ด้านการดูแลสุขภาพ การเพิ่มการเข้าถึงสำหรับผู้พิการ และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ด้านจริยธรรมและการกำกับดูแล

-Ethical AI Use คือการใช้งาน AI อย่างมีจริยธรรมเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และความโปร่งใสของระบบ AI โดยมีการพูดคุยในการกำหนดนโยบายและข้อกำหนดระหว่างผู้พัฒนา ผู้กำหนดแนวทาง และสาธารณชน

-Global Governance คือการสร้างบรรทัดฐานข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยี AI สามารถช่วยจัดการความเสี่ยงของเทคโนโลยีนี้

ด้านความท้าทายและความเสี่ยง

-Bias and Discrimination คือระบบ AI สามารถทำให้อคติที่ปรากฏอยู่ในชุดข้อมูลฝึกอบรมอยู่หรือรุนแรงขึ้นได้ โดยต้องมีความระมัดระวังให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเพื่อลดความอคติ

-Security Risks คือระบบ AI อาจเสี่ยงต่อการถูกแฮ็กและการใช้งานในทางที่ผิด รวมถึงการสร้าง Deepface และอาวุธอัตโนมัติ ซึ่งต้องให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยเป็นอย่างมาก

การทำงานร่วมกันระหว่าง AI และมนุษย์ในปัจจุบันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การมุ่งเน้นการสร้างรูปแบบการอยู่ร่วมกันในลักษณะที่เพิ่มประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงให้น้อยลงที่สุด เพื่อให้การทำงานร่วมกันของ AI และมนุษย์สามารถทำงานร่วมกันได้ในหลาย ๆ ด้าน อีกทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย