11 เทรนการพัฒนาเว็บไซต์ที่น่าสนใจ ปี 2023

11 เทรนการพัฒนาเว็บไซต์ที่น่าสนใจ ปี 2023

ตั้งแต่ปี 1989 จากการมาถึงของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดเว็บไซต์มากกว่า 1.58 พันล้านเว็บไซต์ และมีคนเข้าใช้มากกว่า 5 พันล้านคนต่อวัน และอินเทอร์เน็ตก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิต ดำเนินธุรกิจมาเป็นทางออนไลน์มากขึ้น เกิดเทรนใหม่ ๆ มากมาย 

1. Progressive Web App (PWA)

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การพัฒนาที่ใช้แทนเว็บไซต์ได้แต่ PWA จะช่วยลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บและทำงานแบบออฟไลน์ได้เช่น Google Maps เป็นต้น ในปี 2023 HTML, CSS, JavaScript, React, WebAssembly หรือ Angular จะถูกนำมาใช้ในการเขียน PWA

2.แชทบอท AI

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทคโนโลยี AI ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แชทบอทก็เช่นกัน ได้มีการนำAI เข้ามาช่วยในการจำพฤติกรรมการใช้งาน การต่อสนองทำให้ หลาย ๆ บริษัทจะเริ่มจับแชทบอทเข้ามาช่วยในธุรกิจ เพื่อปรับตามการใช้งานของผู้ใช้งาน ซึ่งตามข้อมูลของ Forbes เรื่องการใช้ AI เข้ามาเสริมการตลาดเพิ่มขึ้น 190% ในช่วงปี 2018 ถึงปี 2020 และคาดว่าแชทบอทจะมีการนำมาใช้มากขึ้นในอนาคตอีกด้วย

3.Accelerated Mobile Pages (AMP)

เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโหลดหน้าเว็บไวขึ้นเปิดตัวในปี 2015 โดยGoogle  ถึงในปัจจุบันจะมีการใช้งานที่ลดลง แต่ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้งานอยู่

4.เว็บแบบหน้าเดียว (SPAs)

คือการใช้งานแอปพลิเคชันแบบหน้าเดียว โดยใช้ JavaScrip เข้ามาช่วยเสริมในการโหลดหน้าเว็บ HTML หน้าเดียว ซึ่งไม่ต้องรีเฟรชหน้าของเว็บ และใช้พื้นที่น้อยลง

5.ค้นหาด้วยเสียง

เป็นเทคโนโลยีที่เปิดตัวในปี 2015 โดยGoogle ซึ่งได้รับความนิยมมาก และได้พัฒนาเป็นผู้ช่วยเสมือน อย่าง Alexa และ Siri ในเวลาต่อมาด้วยการมาถึงของเทคโนโลยี Smart Home ทำให้การสั่งการด้วยเสียงเข้ามาเป็นผลิตภัณฑ์ ใหม่ ๆ เช่น Google Home และ Apple HomePod เป็นต้น

6.การเติบโตของ WordPress

WordPress CMS กำลังครองตลาดแพลตฟอร์มระบบช่วยสร้างเว็บไซต์ถึง 40% และคาดว่าการพัฒนาเครื่องมือ ระบบนำทาง และเทมเพลตต่าง ๆ เพื่อทำให้การใช้งานง่ายขึ้น

7.Motion UI

คือการสร้างหน้าเว็บไซต์ที่ทำให้น่าสนใจมากขึ้นด้วยการเคลื่อนไหวทั้งการเข้าใช้ผ่าน PC และอุปกรณ์พกพาโดยใช้เฟมเวิล์ค เช่นการสร้างสไลค์ หมุน เด้ง เปลี่ยนภาพ และอื่น ๆ อีกมากมาย

8.เว็บไซต์แบบไร้เซิร์ฟเวอร์

คือเทคโนโลยีที่ทำงานบนคลาวด์ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อข้อมูลโดยไม่ต้องเตรียมข้อมูลหรืออัปเกรดเซิร์ฟ ซึ่งบริษัทชั้นนำมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น Google , Amazon , Microsoft เป็นต้น

9.การออกแบบเว็บไซต์ที่มีการตอบสนอง

เมื่อก่อนระบบการตอบสนองไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่เมื่อการมาถึงของอุปกรณ์พกพาและการเข้าชมเว็บไซต์ผ่านมือถือคิดเป็น 58% ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั่วโลก โดยการเก็บข้อมูลการใช้งาน การเข้าถึง GPS และระบบความปลอดภัยโดยเชื่อมต่อกับระบบสแกนลายนิ้วมือช่วยให้การสั่งซื้อง่ายขึ้น

10.การปรับเข้าใช้กับโหมดมืด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากเว็บไซต์ที่มีโหมดมืดนั้นได้รับความนิยม โดยมีการสร้างอินเทอร์เฟชที่สามารถปรับโหมดมืดได้ซึ่งอย่างน้อย 8 ใน 10 ชอบใช้โหมดมืด ซึ่งเว็บไซต์ ใหญ่ ๆ ก็มีการนำระบบนี้ไปใช้ เช่น Facebook Twitter เป็นต้น และหลาย ๆ เว็บจะมีตัวเลือกในการปรับโหมดที่เข้าใจง่าย ซึ่งจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการสร้างเว็บไซต์

11.การปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ คือการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจาก ภัยคุกคาม หรือการนำข้อมูลมาใช้แบบผิดกฎหมาย ซึ่งในปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของการใช้ข้อมูลแบบผิดกฎหมายเยอะขึ้น หลาย ๆ เว็บไซต์ได้มีการปรับวิธีในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น มีขั้นตอนการตรวจสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น เช่น Google Authenticator เป็นต้น